โรคเก๊าท์ ( GOUT )
เกิดจาก ร่างกายมีกรดยูริกในเลือดสูงมากกว่าปกติ และมีการสะสมกรดยูริกเป็นระยะเวลานาน จึงทำให้กรดยูริกตกตะกอน สะสมอยู่ตามส่วนต่างๆของร่างกาย ถ้าสะสมมากที่ข้อต่อ ก็จะเกิดการข้อต่ออักเสบ ปวด บวม แดง ร้อนบริเวณข้อต่อ
ถ้ากรดยูริกสะสมตามผิวหนังมาก จะส่งผลให้เกิดปุ่มนูนขึ้นบริเวณผิวหนัง ถ้ากรดยูริกสะสมที่ไตมาก ก็จะเกิดเป็นโรคนิ่วในไต และ เกิดอาการไตเสื่อม เป็นต้น
กรดยูริก เป็นสารเคมีชนิดหนึ่งในเลือดที่ได้มาจากการย่อยสลายสารพิวรีน ในเนื้อเยื่อทั่วร่างกายและอาหารที่รับประทานเข้าไป
โดยร่างกายจะมีการปรับสมดุลของกรดยูริก ด้วยการกรองจากไต ก่อนมีการขับออกทางปัสสาวะและอุจจาระ เมื่อมีปริมาณกรดยูริกมากขึ้นจากการสร้างของร่างกาย จากการรับประทานอาหารที่มีสารพิวรีนสูง หรือไตมีความผิดปกติในการกรองสารพิวรีน มักนำไปสู่ภาวะกรดยูริกในเลือดสูงได้ง่าย
สนใจโทร/สั่งซื้อ 099-283-1859 คุณอุ๊ ดีเค๊าท์
เก๊าท์ เก๊าท์ เป็นแล้ว ปวดทรมาน ทำงานไม่ได้ ขาบวม เดินไม่ได้ปล่อยไว้ เสี่ยงไตพัง..
อย่ารอให้ถึงวันนั้นเลย ...ให้ดีเก๊าท์ ช่วยดูแลไต ดีกว่า
หยุดอาการปวด😕ความทรมานจากโรคเก๊าท์ ตั้งแต่วันนี้ แล้วผลลัพธ์ที่ได้คือ ความสุขในชีวิตกับทุกกิจกรรม ที่คุณทำอย่างราบรื่น สนุกสุดเหวี่ยงอย่างเต็มที่
#เก๊าท์ #ลดกรดยูริค #ปวด #บวม #แดง
#ข้อเสื่อม #ไตเสื่อม #ข้ออักเสบ #บำรุงไต
💕ด้วยความห่วงใยจาก DKoutดูแลเก๊าท์
นวัตกรรมใหม่รักษาดูแลโรคเก๊าท์ได้ ด้วย
Dkout ดีเค๊าท์ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
สารสกัดธรรมชาติ100%
Size: แบบเม็ด 500 mg.
ใน 1 กล่องมี 30 เม็ด
ราคา กล่องละ 1,765 บาท
☑ลดปริมาณกรดยูริก ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคเก๊าท์
☑ลดอาการปวดตามข้อในผู้ป่วยโรคเก๊าท์
☑บำรุงไตให้แข็งแรง ลดภาวะไตเสื่อม
ปรับสมดุลกรดยูริกในร่างกาย
☑ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล น้ำตาล
และไขมันในเลือดและช่วยปรับระดับความดัน
ให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
☑บำรุงระบบไหลเวียนโลหิตและ
ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
ระดับกรดยูริคในเลือดควรเป็นเท่าไหร่
- ผู้ชาย ควรมีกรดยูริคในเลือดน้อยกว่า 7 มิลลิกรัม/เดซิลิตร
- ผู้หญิง ควรมีกรดยูริคในเลือดน้อยกว่า 6 มิลลิกรัม/เดซิลิตร
สาเหตุที่ทำให้กรดยูริคสูงขึ้นนั้น อาจเป็นผลมาจาก
1.ไตไม่สามารถขับกรดยูริคได้ตามปกติ โดยอาจเป็นปัจจัยทางพันธุกรรม ไตเสื่อมหรือผลข้างเคียงจากยาบางชนิด
2.การรับประทานอาหารที่มีสารพิวรีนสูง โดยพิวรีนถูกเผาผลาญให้กลายเป็นกรดยูริคในเลือด มีโรคหรือภาวะที่ผิดปกติของร่างกาย ทำให้เกิดการสลายตัวของเซลล์และอวัยวะที่ผิดปกติ
ผู้ที่เป็นโรคเก็าท์ ควรปฏิบัติตัวอย่างไร
1.หลีกเลี่ยงการดื่มสุราและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากส่งผลให้กรดยูริคในเลือดสูงขึ้น รวมทั้งลดการขับกรดยูริคออกจากร่างกาย
2.ควรรักษาน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ในผู้ที่น้ำหนักเกินควรลดน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
3.หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีพิวรีนสูง อันก่อให้เกิดระดับกรดยูริคในเลือดสูง
4.ไม่ควรรับประทานอาหารประเภทเนื้อสัตว์มากเกินไป โดยเฉพาะเครื่องในสัตว์ โดยเลือกรับประทานอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย เพื่อป้องกันการสลายโปรตีนจากกล้ามเนื้อมาใช้เป็นพลังงาน
5.ควรหลีกเลี่ยงอาหารกลุ่มไขมันสูง เช่น อาหารทอด อาหารผัดที่ใส่น้ำมันมากๆ และเนื้อสัตว์ติดมัน เนื่องจากอาหารที่มีไขมันสูงทำให้การขับกรดยูริคลดน้อยลง
6.เลือกปรุงอาหารด้วยวิธีนึ่ง ตุ๋น ต้ม ย่าง หรือผัดที่ใช้น้ำมันน้อย เพื่อลดการรับประทานไขมันจากอาหาร
7.ไม่ควรรับประทานน้ำหวานหรืออาหารที่มีส่วนผสมของฟรุกโตสมากเกินไป เพราะสามารถทำให้ระดับกรดยูริคในเลือดสูงดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
อาหารพิวรีนน้อย (0 – 15 มิลลิกรัม/อาหาร 100 กรัม) สามารถทานได้ ข้าวแป้ง ข้าวขาว ขนมปัง สาคู ข้าวโพด แครกเกอร์ ก๋วยเตี๋ยว มักกะโรนี พาสต้า มันฝรั่ง มันเทศ ผัก ผักต่างๆ (ยกเว้นบางชนิดที่มีพิวรีนมากและส่วนของยอดผัก) ผลไม้ ผลไม้ต่างๆ น้ำผลไม้ เนื้อสัตว์ ไข่ไก่ ไข่เป็ด เนยแข็ง นม นมพร่องมันเนย นมขาดมันเนย ไขมัน น้ำมันที่ใช้ประกอบอาหาร เนย อื่นๆ น้ำส้มสายชู วุ้น เจลาติน พุดดิ้ง คัสตาร์ด เครื่องเทศชนิดต่างๆ
อาหารพิวรีนปานกลาง (50 - 150มิลลิกรัม/อาหาร 100 กรัม) ควรลดปริมาณลง ข้าวแป้ง ข้าวโอ๊ต ข้าวแดง ข้าวที่ไม่ขัดจนขาว บิสกิต ยอดข้าวสาลี ผัก ใบขี้เหล็ก หน่อไม้ สะตอ ผักโขม ดอกกะหล่ำปลี เมล็ดถั่วลันเตา เนื้อสัตว์ เนื้อหมู เนื้อไก่ เนื้อวัว ปลากะพง ปลาทูน่า ปลาแซลมอล ปู แฮม ปลาหมึก ไขมัน ถั่วลิสง
อาหารพิวรีนสูง (มากกว่า150 มิลลิกรัม/อาหาร 100 กรัม) ควรหลีกเลี่ยง ข้าวแป้ง ถั่วดำ ถั่วแดง ถั่วเขียว ถั่วเหลือง ผัก กระถิน ชะอม ยอดตำลึง ยอดฟักแม้ว ยอดฟักทอง เห็ด เนื้อสัตว์ ไข่ปลา เครื่องในสัตว์ ปลาไส้ตัน ปลาแอนโชวี่ ปลาอินทรีย์ ปลาซาร์ดีน ปลาแมคเคอเรล ปลากระตัก กุ้ง หอย ห่าน อื่นๆ น้ำสกัดจากเนื้อ น้ำต้มกระดูก น้ำเกรวี่ น้ำซุป ซุปก้อน น้ำปลา กะปิ ยีสต์
ปรึกษาสอบถามเพิ่มเติม>>
โทร.099-283-1859 คุณอุ๊ ดีเค๊าท์
📣 รู้ทันเก๊าท์ รู้ทันเรา ❤
➡️ ภาวะแทรกซ้อนของโรคเก๊าท์
หากไม่ได้รับการรักษาโรคเก๊าท์ก็สามารถพัฒนาไปจนเกิดก้อนโทฟี่
➡️หรือปุ่มนูนใต้ผิวหนังในหลายส่วนของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น นิ้วมือ เท้า ข้อศอก
แต่เมื่ออาการของโรคกำเริบอาจทำให้เกิดการติดเชื้อ ปวดตามข้อ ข้อต่อบิดเบี้ยวจนผิดรูปไปจากเดิม นอกจากนี้ยังมีโอกาสเกิดนิ่วในไตจากการสะสมของผลึกยูเรตในระบบทางเดินปัสสาวะ ซึ่งอาจนำไปสู่การทำงานของไตที่ปกติหรือเกิดภาวะไตวายได้
♨️ ปฏิบัติตัวอย่างไรเมื่อเป็น...โรคเก๊าท์
🔹️ดื่มน้ำมากๆ เพื่อช่วยให้ร่างกายขับกรดยูริกออกทางปัสสาวะ และไม่ทำให้เกิดการตกตะกอนในระบบทางเดินปัสสาวะที่นำไปสู่การเกิดนิ่วในไต
❌หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
♦️ควรหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำอัดลมหรือเครื่องดื่มที่มีความหวานมาก โดยเฉพาะเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของน้ำตาลฟรุกโตส
❌หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีกรดยูริกสูง เช่น เครื่องในสัตว์ อาหารทะเล สัตว์ปีก สารสกัดจากยีสต์ แต่อาจทดแทนด้วยโปรตีนที่ได้จากผลิตภัณฑ์นมที่มีไขมันต่ำ
❌ผู้ที่มีภาวะอ้วนควรลดน้ำหนัก
🔹️สนใจสั่งซื้อ/สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม🔹️
099-283-1859 คุณอุ๊ ดีเค๊าท์
👉

❗❗โรคเก๊าท์ ( GOUT )
เกิดจาก ร่างกายมีกรดยูริก
ในเลือดสูงมากกว่าปกติ และมีการสะสมกรดยูริกเป็นระยะเวลานาน จึงทำให้กรดยูริกตกตะกอน สะสมอยู่ตามส่วนต่างๆของร่างกาย
🌰ถ้าสะสมมากที่ข้อต่อ ก็จะเกิดการข้อต่ออักเสบ ปวด บวม แดง ร้อนบริเวณข้อต่อ
🌰ถ้ากรดยูริกสะสมตามผิวหนังมาก จะส่งผลให้เกิดปุ่มนูนขึ้นบริเวณผิวหนัง
🍑ถ้ากรดยูริกสะสมที่ไตมาก ก็จะเกิดเป็นโรคนิ่วในไต และ เกิดอาการไตเสื่อม เป็นต้น
🍑กรดยูริก เป็นสารเคมีชนิดหนึ่งในเลือดที่ได้มาจากการย่อยสลายสารพิวรีน ในเนื้อเยื่อทั่วร่างกายและอาหารที่รับประทานเข้าไป
🍓โดยร่างกายจะมีการปรับสมดุลของกรดยูริก ด้วยการกรองจากไต ก่อนมีการขับออกทางปัสสาวะและอุจจาระ เมื่อมีปริมาณกรดยูริกมากขึ้นจากการสร้างของร่างกาย
จากการรับประทานอาหารที่มีสารพิวรีนสูง หรือไตมีความผิดปกติในการกรองสารพิวรีน มักนำไปสู่ภาวะกรดยูริกในเลือดสูงได้ง่าย
😘😘😘😘😘😘😘😘😘
✔ดูแลตัวเองอย่างง่ายๆก่อน
✔ก่อนจะให้คนอื่นดูแล
✔หันมาดูแลสุขภาพกัน
✔อย่ารอให้ป่วยแล้วค่อยดูแล
✔ระวังร่างกายจะประท้วง!!
😘😘😘😘😘😘😘😘😘
ป้องกันดีกว่าการรักษา
❤เราใช้สารอาหารในการฟื้นฟูดูแลอาการตามที่เป็น
ราคากล่องละ 1,765 บาท
(1 กล่องมี 30 เม็ด)
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น